October 18, 2023
ใช้เวลาอ่าน 3 นาที
หลังจากผ่านช่วงสถานการณ์โรคระบาด Covid-19 มา หลายองค์กรเริ่มเปลี่ยนมาให้พนักงานทำงานแบบ Work From Home (WFH) กันอย่างเต็มรูปแบบแล้ว แต่บางองค์กรยังคงให้กลับไปทำงานเข้าออฟฟิศหรือบางองค์กรก็มีการออกกฎให้ ทำงาน WFH สัปดาห์ละ 1-2 วันบ้าง เนื่องจากอาจจะยังไม่สามารถที่จัดการกับระบบการทำงานแบบ WFH อย่างเต็มรูปแบบได้ วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำถึงข้อดีของการทำงานในรูปแบบ WFH และองค์กรควรมีแนวทางบริหารอย่างไร เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Work From Home คือ รูปแบบการทำงานที่พนักงานนั้นสามารถที่จะทำงานที่บ้านได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ โดยเป็นการทำงานในช่วงเวลางานเช่นเดิม ซึ่งมีการนำเอาอุปกรณ์เทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการเชื่อมต่อหรือสื่อสารในระหว่างการทำงาน อาทิเช่น Zoom หรือ Google Meet เป็นต้น ซึ่งพนักงานจะอยู่ที่ไหนก็ได้ขอเพียงแค่ทำงานในช่วงเวลางาน มีอุปกรณ์การทำงานที่มีคุณภาพ และสามารถที่จะติดต่อพูดคุยหรือตามงานได้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
การทำงาน WFH นั้น เป็นหนึ่งในเทรนด์ของการทำงานที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน และคาดว่าในอนาคตจะเป็นรูปแบบการทำงานที่ถูกนำเอามาใช้จริงจังอีกด้วย ซึ่งการทำงานในรูปแบบของการ Work From Home มีทั้งข้อดีต่อองค์กรและข้อดีต่อพนักงานในองค์กร โดยเราได้ทำการยกตัวอย่างข้อดีบางส่วนนำเอามาให้เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจ สำหรับองค์กรที่ยังลังเลในเรื่องของการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานมาเป็น WFH ดังนี้
แน่นอนว่าการทำงานในรูปแบบของ WFH นั้น สามารถที่จะทำงานที่บ้านได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ออฟฟิศ ทำให้สามารถประหยัดเวลาในการเดินทางได้ ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่าประเทศไทยนั้น เป็นอีกหนึ่งประเทศที่การจราจรติดขัดอย่างมาก ซึ่งการเดินทางเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจส่งผลให้พนักงานเกิดความเบื่อหน่ายหรือหมด Passion ในการทำงานได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นการทำงานที่บ้านสามารถที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
เมื่อไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งรีบตื่นแต่เช้าเพื่อเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด หรือหลีกเลี่ยงการเดินทางช่วงเช้าที่มีความแออัด จะทำให้พนักงานมีอิสระและสามารถที่จะยืดหยุ่นเวลาได้มากขึ้นกว่าเดิม การทำงาน WFHจะทำให้พนักงานในองค์กรมีเวลาในการพักผ่อนมากยิ่งขึ้น และเมื่อพนักงานในองค์กรมีเวลาในการพักผ่อนมากขึ้น ก็จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับพนักงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า 30.5% ขององค์กรที่หันมาให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือเปลี่ยนมาให้ทำงานในรูปแบบของ Work From Home พนักงานในองค์กรมี Performance ในการทำงานที่ดีขึ้น เนื่องจากมีความสุขจากการทำงาน เพราะตามที่ได้มีการกล่าวไปว่าในการทำงานนั้นมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง, ความเหนื่อยล้า, การตื่นเช้าเกินจำเป็น ล้วนส่งผลกระทบต่อจิตใจและร่างกายของพนักงานในองค์กร อาจส่งผลให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร หากแก้ปัญหาด้วยการให้ทำงานในรูปแบบ WFH อาจทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นได้
นอกเหนือไปจากข้อดีที่เกิดขึ้นกับพนักงานในองค์กร ที่จะได้ประโยชน์จากการทำงานในรูปแบบของการ Work From Home แล้ว การทำงาน WFH ยังส่งผลดีต่อองค์กรด้วยเช่นเดียวกัน โดยองค์กรจะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเช่าออฟฟิศ ค่าสาธารณูปโภค อีกทั้งหากองค์กรใดมีค่าใช้จ่ายในด้านของสวัสดิการพนักงาน อย่างเช่น ค่าของว่าง ก็สามารถที่จะลดค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ เหล่านี้ไปได้เช่นกัน
ตามที่เราได้มีการกล่าวไปว่าการทำงานในรูปแบบ WFH นั้น มีข้อดีทั้งกับพนักงานและองค์กร และกลายเป็นรูปแบบการทำงานที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในยุคปัจจุบัน หากคุณเล็งเห็นว่าองค์กรของคุณสามารถที่จะทำงานในรูปแบบการ Work From Home ได้ และเลือกปรับเปลี่ยนกฎระเบียบการทำงานให้สอดคล้องกับการทำงาน WFH ได้โดยไม่ส่งผลกระทบ การทำงานในรูปแบบนี้ก็เป็นหนึ่งในรูปแบบที่น่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว