การทำงานที่บ้านหรือ Work From Home นั้นเป็นอีกทางเลือกใหม่ของคนทำงานที่จะช่วยลดเวลาการเดินทางไปกลับลงเน้นที่ผลลัพธ์ของงานมากขึ้น แต่การจะทำงานที่บ้านให้ราบรื่นและผลงานออกมาดีตามเป้าไม่ต่างจากการนั่งทำงานในบริษัท ก็จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ในการ Work From Home ที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน
7 อุปกรณ์ Work from home
สำหรับอุปกรณ์ Work From Home ที่เหมาะสมนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เครื่องมือในการทำงาน แต่ยังต้องใส่ใจไปถึงการเลือกอุปกรณ์ที่จะช่วยซัพพอร์ตสุขภาพและช่วยลดความเครียดจากการทำงานได้ด้วย โดยอุปกรณ์ที่ควรมีเพื่อให้การทำงานนอกบ้านเป็นไปด้วยความราบรื่น ได้แก่
1. โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์
สำหรับการทำงานที่บ้าน อุปกรณ์ Work From Home ที่สำคัญมาก สามารถเลือกโน้ตบุ๊ค หรือคอมพิวเตอร์ที่มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย และมีประสิทธิภาพแบตเตอรี่ยาวนาน มีพอร์ต USB ให้เสียบเชื่อมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ครบครัน โดยโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับการ Work From Home สำหรับสายพิมพ์งาน ทำสรุป พิมพ์รายงาน จัดทำพรีเซนเทชันทั่วไป หรืองานกราฟิกเบื้องต้น สามารถเลือกได้ดังนี้
- ซีพียู: CPU INTEL CORE I7-10700F 8/16
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล: 256 GB หรือ 512 GB
- แรม: ขั้นต่ำ 8 Gb, 16 GB หรือ 32GB สำหรับสายตัดต่อ
- ขนาดหน้าจอ: 14 นิ้ว ขึ้นไป
2. โต๊ะทำงาน
โต๊ะทำงานเป็น อุปกรณ์ Work From Home ที่สิ่งสำคัญ ควรเลือกโต๊ะที่สนับสนุนกับรูปร่าง เพื่อลดการเกิดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ จากการทำงานนานๆ โดยโต๊ะทำงานที่เหมาะกับการ Work from home ได้แก่
- โต๊ะทำงานแบบปรับระดับได้ด้วยระบบไฟฟ้า ปรับได้ตามสรีระส่วนสูงและความถนัด
- โต๊ะทำงานแบบมีที่พักเท้า มีที่จัดเก็บเอกสารครบครัน
3. เก้าอี้ทำงาน
เก้าอี้เป็นอีกอุปกรณ์ Work From Home เป็นอีกสิ่งที่ควรให้ความใส่ใจ เพราะเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยซัพพอร์ตแผ่นหลัง การนั่งของเราให้มีประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรมจากการทำงานตามมา โดยเก้าอี้ที่เหมาะกับการ Work from home จะต้องมีลักษณะดังนี้
- มีการออกแบบส่วนเว้าส่วนโค้งที่รองรับสรีระของแผ่นหลัง มีพนักพิงศีรษะ
- เบาะไม่นุ่มเกินไปและไม่แข็งเกินไป
- สามารถปรับระดับเบาะนั่งได้
- รองรับน้ำหนักได้ดี และมีความยืดหยุ่นของวัสดุ
4. หูฟัง
หูฟังเป็นอุปกรณ์ Work From Home ที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะบางครั้งเราอาจต้องเข้าประชุมออนไลน์ หูฟังจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การสื่อสารระหว่างทีมเป็นไปอย่างราบรื่น สามารถเลือกใช้ตามประเภทที่ชอบได้ ไม่ว่าจะเป็นหูฟังประเภทไร้สาย In-ear หรือ Headphone โดยหูฟังที่มีคุณสมบัติแนะนำได้แก่
- หูฟังที่ตัดเสียงรบกวนได้ดี
- หูฟังที่ใส่มีจุกรองรับกับใบหู ทำให้สวมใส่เป็นเวลานานได้โดยไม่รู้สึกเจ็บใบหู
5. เมาส์ไร้สาย
เมาส์ไร้สายเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ Work From Home ที่สำคัญในการทำงาน เพราะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้นโดยไม่ต้องมีสายเมาส์เกะกะสายตา โดยการเลือกเมาส์ไร้สายนั้นควรเลือกให้เหมาะกับประเภทของการใช้งาน ดังนี้
- เมาส์ไร้สายทั่วไป เหมาะกับการใช้งานพิมพ์เอกสาร งานทั่วไปที่ไม่ต้องการฟังก์ชันเสริมอะไรเป็นพิเศษ
- เมาส์ไร้สายสำหรับงานกราฟิก เหมาะกับสายงานที่ต้องใช้โปรแกรมพิเศษต่าง ๆ การเลือกใช้เมาส์สำหรับงานกราฟิกจะมีปุ่ม คีย์ลัดพิเศษช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น
6. จอคอมพิวเตอร์เสริม
อุปกรณ์ Work From Home สำหรับบางสายงานอย่างเช่น สายงานกราฟิก อาจจะต้องการจอคอมพิวเตอร์เสริม หรือสำหรับใครที่มีโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ที่จอเล็ก การเลือกจอคอมพิวเตอร์เสริมก็เป็นตัวเลือกที่ดี สามารถเลือกตามความเหมาะสมดังนี้
- จอคอมพิวเตอร์เสริมทั่วไป ควรเลือกความชัดระดับ Full HD ขึ้นไป มีเฟรมเรตที่ 144 Hz ทำให้เห็นภาพคมชัดยิ่งขึ้น
- จอคอมพิวเตอร์เสริมสำหรับงานตัดต่อ กราฟิก เหมาะกับจอแบบ IPS ที่มีสีสันสมจริง เหมาะกับการทำงานที่ต้องใช้ความแม่นยำของสีสัน
7. อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
การ Work from home สิ่งสำคัญที่สุดที่จะขับเคลื่อนการทำงานทุกอย่างก็คืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไม่เชิงเป็นอุปกรณ์ Work From Home แต่มีความจำเป็นมากๆ สามารถเลือกใช้อินเทอร์เน็ตประเภท Unlimited 20 mbs ขึ้นไป หรืออินเทอร์เน็ต FTTH (Fiber To The Home) ที่มีความเร็วสูง จะช่วยให้การทำงานและการประชุมเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
สรุปบทความ
จะเห็นได้ว่าการจะทำงานแบบ work from home ให้มีประสิทธิภาพได้ก็ต้องให้ความใส่ใจกับอุปกรณ์ Work From Home ในการทำงานด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่จะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งจะทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพไม่ต่างจากการนั่งทำงานในออฟฟิศเลยทีเดียว