เคยคิดไหมว่า ถ้าไม่ต้องรอถึงอายุ 60 ก็สามารถหยุดทำงานแล้วใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้ จะเป็นอย่างไร? นี่คือแนวคิดของ Early Retire หรือการเกษียณก่อนวัยที่กำลังเป็นกระแสแรงในยุคนี้ หลายคนหันมาวางแผนการเงินอย่างจริงจัง เพื่อหลุดจากวังวนงานประจำและมีอิสระในการใช้ชีวิตเร็วกว่าคนทั่วไป แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะเกษียณเร็วได้จริง? มาหาคำตอบกัน
Early Retire หรือ Early Retirement หมายถึงการเกษียณจากการทำงานประจำก่อนอายุเกษียณทั่วไปที่กำหนดไว้ที่ 55-60 ปี โดยผู้ที่ Early Retire จะมีอิสระทางการเงินเพียงพอที่จะดำรงชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพารายได้จากการทำงานประจำ หลายคนวางแผน Early Retire ตั้งแต่อายุ 40-50 ปี หรือบางคนอาจเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและการบริหารจัดการทางการเงินของแต่ละบุคคล
เหตุผลหลักที่ทำให้คนอยาก Early Retire คือความต้องการมีเวลาและอิสระมากขึ้นในการใช้ชีวิต หลายคนเบื่อกับวงจรงานประจำ บางคนต้องการใช้เวลากับครอบครัวหรือทำตามความฝัน ในขณะที่บางคนเผชิญกับความเครียดและปัญหาสุขภาพจากการทำงานหนัก การ Early Retire จึงเป็นทางออกที่ทำให้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพมากขึ้น
การวางแผน Early Retire ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปหากคุณเริ่มต้นวางแผนแต่เนิ่น ๆ และมีวินัยในการทำตามแผน มาดู 6 ขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณวางแผน Early Retire ได้อย่างมีประสิทธิผล
ขั้นตอนแรก ต้องกำหนดอายุที่คุณต้องการเกษียณ เช่น 40, 45 หรือ 50 ปี รวมทั้งประมาณการอายุขัยของตัวเองด้วย เพื่อคำนวณระยะเวลาที่ต้องใช้เงินหลังเกษียณ โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยมีอายุขัยประมาณ 75-80 ปี ซึ่งหมายความว่าหากคุณ Early Retire ที่อายุ 45 ปี คุณอาจต้องมีเงินเพียงพอสำหรับอีกประมาณ 30-35 ปี
การคำนวณค่าใช้จ่ายหลัง Early Retire มีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้มั่นใจว่าเงินที่เตรียมไว้เพียงพอตลอดช่วงชีวิตหลังเกษียณ โดยต้องพิจารณาทั้งค่าใช้จ่ายประจำวัน ค่ารักษาพยาบาล และกิจกรรมที่อยากทำหลังเกษียณ อย่าลืมนำปัจจัยเงินเฟ้อมาคำนวณด้วย เพราะค่าใช้จ่ายในอนาคตจะสูงขึ้นกว่าปัจจุบัน
ตัวอย่างการคำนวณ
สมมติว่าคุณวางแผนจะ Early Retire เมื่ออายุ 47 ปี และคาดว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงอายุ 80 ปี คุณประเมินค่าใช้จ่ายรายเดือนอยู่ที่ 25,000 บาท คุณจะต้องมีเงินอย่างน้อย (25,000 x 12) x 33 = 9,900,000 บาท นี่คือจำนวนเงินขั้นต่ำที่คุณต้องสะสมไว้สำหรับการ Early Retire โดยยังไม่รวมเงินเฟ้อและค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน
ก่อนจะ Early Retire คุณควรประเมินสถานะการเงินปัจจุบันทั้งหมด ทั้งทรัพย์สินที่มี เช่น เงินออม การลงทุน อสังหาริมทรัพย์ และหนี้สินต่า งๆ ที่ยังผูกพันอยู่ การ Early Retire อย่างมั่นคงนั้น ควรปลดหนี้ให้หมดหรือเหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น หนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว
การเก็บออมเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของแผน Early Retire เริ่มจากกำหนดเป้าหมายการออมในแต่ละเดือน และสร้างวินัยในการออมให้เป็นนิสัย อาจใช้หลัก 50-30-20 คือใช้จ่าย 50% ของรายได้ เก็บออม 30% และลงทุน 20% หรือปรับเพิ่มสัดส่วนการออมและลงทุนให้สูงขึ้นตามความสามารถ สิ่งสำคัญคือ การออมอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงเวลาที่รายได้ไม่แน่นอน เพราะการออมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในระยะยาวจะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายการเกษียณได้เร็วยิ่งขึ้น
เงินออมเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในระยะยาว การลงทุนจึงเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้เงินออมของคุณงอกเงยเร็วขึ้น โดยอาจกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น หุ้น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคือการเกษียณเมื่อใด การวางแผนการลงทุนที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายได้เร็วขึ้น
ค่ารักษาพยาบาลเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงและไม่แน่นอน โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น หากวางแผน Early Retire แต่ไม่มีประกันสุขภาพ อาจต้องใช้เงินออมไปกับค่ารักษามากกว่าที่คิด ดังนั้น ควรทำประกันสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อให้ได้เบี้ยประกันที่ถูกลง และได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น แต่ถ้าเลือกไม่ทำประกัน ก็ควรจัดสรรเงินสำรองไว้เผื่อเหตุฉุกเฉินทางสุขภาพ เพื่อไม่ให้กระทบกับเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณ
การวางแผน Early Retire ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งการประเมินอายุเกษียณ ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ การออมและการลงทุน รวมถึงการเตรียมพร้อมด้านสุขภาพ เพื่อให้การเกษียณเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข
สำหรับชาวออฟฟิศที่ใส่ใจสุขภาพในการทำงาน Siam Okamura เราจัดจำหน่ายเก้าอี้สำนักงาน เก้าอี้ Ergonomic เก้าอี้เพื่อสุขภาพ และโต๊ะปรับระดับที่ช่วยให้คุณทำงานได้อย่างสะดวกสบาย ลงทุนกับสุขภาพตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ช่วงเวลาหลังเกษียณของคุณมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น