ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “สภาพแวดล้อมการทำงาน” เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญ ที่มีผลต่อสภาพจิตใจของพนักงานภายในองค์กร และส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานอย่างมากทีเดียว ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่าบริษัทหลายๆ แห่งในปัจจุบัน เริ่มหันมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศออฟฟิศให้น่าทำงาน ไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่นๆ ภายในองค์กร
ผู้ประกอบการหลายท่าน อาจจะมองว่าสภาพแวดล้อมการทำงานที่จำเป็นต้องมี อาจมีเพียงแค่โต๊ะเก้าอี้ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานก็เพียงพอแล้ว แต่จริงๆ แล้ว สภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือ Work Environment คือ สภาพแวดล้อมที่จะเป็นพื้นที่ในการช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี ส่งเสริมรูปแบบการทำงานของพนักงานในทุกๆ ด้าน เป็นสภาพแวดล้อมที่พนักงานภายในองค์กร จะรู้สึกถึงความสบายใจเมื่ออยู่ในสถานที่นั้นๆ เพื่อให้พนักงานสามารถที่จะดึงศักยภาพ การทำงานของตัวเองออกมาได้มากที่สุด
สภาพแวดล้อมในการทำงาน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
สภาพแวดล้อมทางกายภาพ ครอบคลุมตั้งแต่การจัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสม การควบคุมแสงสว่างและอุณหภูมิให้เอื้อต่อการทำงาน รวมถึงระบบถ่ายเทอากาศที่ดี การจัดการเรื่องเสียงรบกวนเพื่อสร้างสมาธิในการทำงาน ตลอดจนการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์สำนักงานที่ทันสมัยและเพียงพอ นอกจากนี้ ความสะอาดและความเป็นระเบียบของสถานที่ทำงานก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน
สภาพแวดล้อมทางสังคมเกี่ยวข้องกับปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในที่ทำงาน ซึ่งรวมถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนร่วมงาน ระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และการทำงานเป็นทีมที่ราบรื่น วัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและเปิดกว้างจะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ในขณะที่ภาวะผู้นำและการบริหารงานที่ดีจะช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่เอื้อต่อการมีส่วนร่วมและการแสดงความคิดเห็น ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อความสุขและประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน
สภาพแวดล้อมทางจิตวิทยาเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจและความรู้สึกของพนักงาน โดยเริ่มตั้งแต่ความรู้สึกมั่นคงในหน้าที่การงาน การได้รับโอกาสในการพัฒนาและความก้าวหน้าในสายอาชีพ รวมถึงการได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา องค์กรต้องให้ความสำคัญกับการจัดการความเครียดและความกดดันในการทำงาน พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจและความพึงพอใจในงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงานมีสภาพจิตใจที่พร้อมทุ่มเทกับการทำงานอย่างเต็มที่
อย่างที่เราได้มีการกล่าวไปในตอนต้นแล้วว่า สภาพแวดล้อมในการทำงานนั้น มีผลต่อสภาพจิตใจของพนักงานภายในองค์กร และส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งหากบริษัทของคุณมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี และเหมาะสำหรับการทำงาน จะส่งประโยชน์ต่อทั้งตัวของพนักงาน และส่งผลต่อผู้ประกอบการ โดยเราได้ยกตัวอย่างข้อดีของการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงาน มาเป็นข้อมูลบางส่วนดังนี้
มาดูกันต่อว่า องค์ประกอบหรือปัจจัยสภาพแวดล้อมการทำงานมีอะไรบ้าง ที่ส่งให้ภาพรวมสภาพแวดล้อมดีขึ้น
สำหรับบริษัทที่ต้องการ จะสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี เพื่อปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ ให้กับองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน สามารถนำเอาวิธีการสร้างสภาพแวดล้อม ที่เราได้นำเอามาฝากในวันนี้ ไปปรับใช้กับบริษัทของคุณได้เลย
วิธีการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี สิ่งแรกคือการทำให้สถานที่ทำงานนั้นน่าอยู่ มีการตกแต่งให้สวยงามทันสมัย และสามารถที่จะใช้งานได้จริง นอกจากจะต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานอย่างครบครันแล้ว การเลือกใช้ เฟอร์นิเจอร์ทำงานคุณภาพดี เช่น เลือกเก้าอี้ทำงานที่รองรับท่านั่งที่ถูกต้อง โดยมีพนักพิงรับแผ่นหลังได้ดี ปรับระดับความสูงได้ และโต๊ะที่มีความสูงเหมาะสม เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้พนักงาน รู้สึกถึงความใส่ใจขององค์กรได้เช่นกัน
การกำหนดวัฒนธรรมองค์กร หรือการสร้างค่านิยมขององค์กรอย่างชัดเจน จะทำให้วิสัยทัศน์ในการทำงานของพนักงานรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งการกำหนดวัฒนธรรมที่ชัดเจน อาจจะต้องคำนึงด้วยว่า สามารถนำเอาไปปฏิบัติจริงได้หรือไม่ เพื่อให้พนักงานรู้สึกเชื่อ และเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้
อีกหนึ่งวิธีการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ที่มักจะได้ใจของพนักงานภายในองค์กรเป็นอย่างมาก คือการดูแลสุขภาพกาย และสุขภาพใจของพนักงาน อย่างเช่น การมอบสิทธิประโยชน์ส่วนลดสมาชิกฟิตเนส, การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้มีความยืดหยุ่น และการจัดกิจกรรมเที่ยวพักผ่อน เป็นต้น เพราะอย่างที่รู้กันว่าในโลกของการทำงานนั้น อาจทำให้เกิดความเครียดได้ตลอดเวลา การที่บริษัทให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จะทำให้พนักงานรู้สึกถึงความใส่ใจที่มีต่อคนทำงานนั่นเอง
บริเวณที่เป็นสถานที่ทำงาน จะต้องมีการจัดสิ่งแวดล้อมให้ดี มีมุมพักสายตา มีสีเขียว และไม่วุ่นวาย ไม่มีเสียงดังรบกวน และสถานที่ทำงานจะต้องมีความสะอาด เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้พนักงานมีสมาธิในการทำงาน มีไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ และมีความรู้สึกอยากทำงานมากยิ่งขึ้น ถือเป็นวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่ไม่ควรมองข้าม
การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี อีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน คือการสร้าง Work Life Balance ที่ดีให้แก่พนักงาน ยกตัวอย่างเช่น หากบริษัทสามารถที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน เป็นรูปแบบการ Work From Home หรือ Hybrid Working ที่ไม่เน้นการเข้าสำนักงานออฟฟิศ จะทำให้พนักงานสามารถมี Work Life Balance และมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นได้ แต่สำหรับบริษัทที่อาจจะไม่สามารถนำรูปแบบการทำงานนี้มาใช้ได้ เพราะรูปแบบการทำงานไม่เหมาะสม ก็อาจมองหาความยืดหยุ่นในเรื่องของเวลาการทำงาน นำเอามาปรับใช้กับพนักงานได้เช่นกัน
การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีจะส่งผลดีต่อทั้งองค์กรและพนักงาน ดังนี้
สภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เหมาะสมส่งผลกระทบ ดังนี้
วิธีที่จะทำให้พนักงาน และบุคลากรภายในองค์กร มีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มมากขึ้น ไม่ได้มีเพียงแค่การส่งพนักงานไปอบรม หรือไปเรียนเพื่อ Upskill เท่านั้น แต่การปรับสภาพแวดล้อมการทำงานก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ให้กับพนักงานได้เช่นเดียวกัน ถ้าหากคุณอยากให้บริษัทเติบโตมากยิ่งขึ้น เรื่องที่ดูแเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ คือสิ่งที่มีส่วนช่วยอย่างมาก รับรองได้เลยว่าหากได้มีการนำเอาไปปรับใช้กับบริษัทของคุณ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเกินความคาดหมายแน่นอน