สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

May 20, 2024

ใช้เวลาอ่าน 4 นาที

สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

โพสใน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “สภาพแวดล้อมการทำงาน” เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญ ที่มีผลต่อสภาพจิตใจของพนักงานภายในองค์กร และส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานอย่างมากทีเดียว ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่าบริษัทหลายๆ แห่งในปัจจุบัน เริ่มหันมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศออฟฟิศให้น่าทำงาน ไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่นๆ ภายในองค์กร

สภาพแวดล้อมการทำงานคืออะไร

2 สภาพแวดล้อมการทำงานคืออะไร

ผู้ประกอบการหลายท่าน อาจจะมองว่าสภาพแวดล้อมการทำงานที่จำเป็นต้องมี อาจมีเพียงแค่โต๊ะเก้าอี้ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานก็เพียงพอแล้ว แต่จริงๆ แล้ว สภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือ Work Environment คือ สภาพแวดล้อมที่จะเป็นพื้นที่ในการช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี ส่งเสริมรูปแบบการทำงานของพนักงานในทุกๆ ด้าน เป็นสภาพแวดล้อมที่พนักงานภายในองค์กร จะรู้สึกถึงความสบายใจเมื่ออยู่ในสถานที่นั้นๆ เพื่อให้พนักงานสามารถที่จะดึงศักยภาพ การทำงานของตัวเองออกมาได้มากที่สุด

สภาพแวดล้อมในการทำงาน มีกี่ประเภท

สภาพแวดล้อมในการทำงาน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

สภาพแวดล้อมทางกายภาพ (Physical Environment)

สภาพแวดล้อมทางกายภาพ ครอบคลุมตั้งแต่การจัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสม การควบคุมแสงสว่างและอุณหภูมิให้เอื้อต่อการทำงาน รวมถึงระบบถ่ายเทอากาศที่ดี การจัดการเรื่องเสียงรบกวนเพื่อสร้างสมาธิในการทำงาน ตลอดจนการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์สำนักงานที่ทันสมัยและเพียงพอ นอกจากนี้ ความสะอาดและความเป็นระเบียบของสถานที่ทำงานก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน

สภาพแวดล้อมทางสังคม (Social Environment)

สภาพแวดล้อมทางสังคมเกี่ยวข้องกับปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในที่ทำงาน ซึ่งรวมถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนร่วมงาน ระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และการทำงานเป็นทีมที่ราบรื่น วัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและเปิดกว้างจะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ในขณะที่ภาวะผู้นำและการบริหารงานที่ดีจะช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่เอื้อต่อการมีส่วนร่วมและการแสดงความคิดเห็น ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อความสุขและประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน

สภาพแวดล้อมทางจิตวิทยา (Psychological Environment)

สภาพแวดล้อมทางจิตวิทยาเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจและความรู้สึกของพนักงาน โดยเริ่มตั้งแต่ความรู้สึกมั่นคงในหน้าที่การงาน การได้รับโอกาสในการพัฒนาและความก้าวหน้าในสายอาชีพ รวมถึงการได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา องค์กรต้องให้ความสำคัญกับการจัดการความเครียดและความกดดันในการทำงาน พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจและความพึงพอใจในงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงานมีสภาพจิตใจที่พร้อมทุ่มเทกับการทำงานอย่างเต็มที่

ความสำคัญของสภาพแวดล้อมการทำงาน

อย่างที่เราได้มีการกล่าวไปในตอนต้นแล้วว่า สภาพแวดล้อมในการทำงานนั้น มีผลต่อสภาพจิตใจของพนักงานภายในองค์กร และส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งหากบริษัทของคุณมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี และเหมาะสำหรับการทำงาน จะส่งประโยชน์ต่อทั้งตัวของพนักงาน และส่งผลต่อผู้ประกอบการ โดยเราได้ยกตัวอย่างข้อดีของการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงาน มาเป็นข้อมูลบางส่วนดังนี้

  • สามารถช่วยลดความเครียด และลดภาวะหมดไฟในการทำงานลงได้
  • หากสภาพแวดล้อมในการทำงานดี จะเพิ่มอัตราการทำงานให้พนักงาน สามารถทำงานได้เร็วและดีขึ้น
  • ลดอัตราการลาออก
  • พนักงาน และบุคลากรภายใน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
  • เป็นการสร้างทัศนคติใหม่ๆ และทำให้พนักงานมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

องค์ประกอบของสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี

มาดูกันต่อว่า องค์ประกอบหรือปัจจัยสภาพแวดล้อมการทำงานมีอะไรบ้าง ที่ส่งให้ภาพรวมสภาพแวดล้อมดีขึ้น

  • วัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง เปิดกว้าง ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเคารพความแตกต่าง
  • ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงาน ซึ่งจะนำไปสู่บรรยากาศการทำงานที่อบอุ่นและเป็นมิตร
  • ความยืดหยุ่นในการทำงาน ให้อิสระในการจัดการเวลาและสถานที่ทำงาน เช่น การทำงานแบบยืดหยุ่น (Flexible Hours) หรือการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home)
  • โอกาสในการเติบโตและพัฒนา มีเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพที่ชัดเจน
  • การให้รางวัลและการยอมรับที่เป็นธรรม จะช่วยสร้างแรงจูงใจและความรู้สึกมีคุณค่าให้กับพนักงาน
  • สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เหมาะสม สะอาด เป็นระเบียบ มีแสงสว่างเพียงพอ อากาศถ่ายเทสะดวก และมีอุปกรณ์การทำงานที่ทันสมัยครบครัน
  • การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ทั่วถึง และรวดเร็ว ทั้งการสื่อสารจากบนลงล่างและล่างขึ้นบน รวมถึงการสื่อสารระหว่างแผนก

วิธีสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี

สำหรับบริษัทที่ต้องการ จะสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี เพื่อปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ ให้กับองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน สามารถนำเอาวิธีการสร้างสภาพแวดล้อม ที่เราได้นำเอามาฝากในวันนี้ ไปปรับใช้กับบริษัทของคุณได้เลย

1. ทำสถานที่ทำงานให้น่าอยู่ อุปกรณ์ครบครัน

3 ทำสถานที่ทำงานให้น่าอยู่ อุปกรณ์ครบครัน

วิธีการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี สิ่งแรกคือการทำให้สถานที่ทำงานนั้นน่าอยู่ มีการตกแต่งให้สวยงามทันสมัย และสามารถที่จะใช้งานได้จริง นอกจากจะต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานอย่างครบครันแล้ว การเลือกใช้ เฟอร์นิเจอร์ทำงานคุณภาพดี เช่น เลือกเก้าอี้ทำงานที่รองรับท่านั่งที่ถูกต้อง โดยมีพนักพิงรับแผ่นหลังได้ดี ปรับระดับความสูงได้ และโต๊ะที่มีความสูงเหมาะสม เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้พนักงาน รู้สึกถึงความใส่ใจขององค์กรได้เช่นกัน

2. กำหนดวัฒนธรรมองค์กรที่ชัดเจน

การกำหนดวัฒนธรรมองค์กร หรือการสร้างค่านิยมขององค์กรอย่างชัดเจน จะทำให้วิสัยทัศน์ในการทำงานของพนักงานรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งการกำหนดวัฒนธรรมที่ชัดเจน อาจจะต้องคำนึงด้วยว่า สามารถนำเอาไปปฏิบัติจริงได้หรือไม่ เพื่อให้พนักงานรู้สึกเชื่อ และเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้

3. ดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจของพนักงาน

อีกหนึ่งวิธีการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ที่มักจะได้ใจของพนักงานภายในองค์กรเป็นอย่างมาก คือการดูแลสุขภาพกาย และสุขภาพใจของพนักงาน อย่างเช่น การมอบสิทธิประโยชน์ส่วนลดสมาชิกฟิตเนส, การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้มีความยืดหยุ่น และการจัดกิจกรรมเที่ยวพักผ่อน เป็นต้น เพราะอย่างที่รู้กันว่าในโลกของการทำงานนั้น อาจทำให้เกิดความเครียดได้ตลอดเวลา การที่บริษัทให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จะทำให้พนักงานรู้สึกถึงความใส่ใจที่มีต่อคนทำงานนั่นเอง

4. มีสิ่งแวดล้อมที่ดี

4 มีสิ่งแวดล้อมที่ดี

บริเวณที่เป็นสถานที่ทำงาน จะต้องมีการจัดสิ่งแวดล้อมให้ดี มีมุมพักสายตา มีสีเขียว และไม่วุ่นวาย ไม่มีเสียงดังรบกวน และสถานที่ทำงานจะต้องมีความสะอาด เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้พนักงานมีสมาธิในการทำงาน มีไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ และมีความรู้สึกอยากทำงานมากยิ่งขึ้น ถือเป็นวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่ไม่ควรมองข้าม

5. ส่งเสริมการทำงานแบบ Work Life Balance

การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี อีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน คือการสร้าง Work Life Balance ที่ดีให้แก่พนักงาน ยกตัวอย่างเช่น หากบริษัทสามารถที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน เป็นรูปแบบการ Work From Home หรือ Hybrid Working ที่ไม่เน้นการเข้าสำนักงานออฟฟิศ จะทำให้พนักงานสามารถมี Work Life Balance และมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นได้ แต่สำหรับบริษัทที่อาจจะไม่สามารถนำรูปแบบการทำงานนี้มาใช้ได้ เพราะรูปแบบการทำงานไม่เหมาะสม ก็อาจมองหาความยืดหยุ่นในเรื่องของเวลาการทำงาน นำเอามาปรับใช้กับพนักงานได้เช่นกัน

ข้อดีของการมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี

การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีจะส่งผลดีต่อทั้งองค์กรและพนักงาน ดังนี้

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ส่งผลให้งานมีคุณภาพและเสร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ เพิ่มความ Productivity ให้กับองค์กร
  • พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร เกิดความรักและความภักดีต่อองค์กร ส่งผลให้อัตราการลาออกลดลงและความทุ่มเทในการทำงานเพิ่มขึ้น
  • บรรยากาศการทำงานที่เปิดกว้าง เคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ช่วยกระตุ้นให้พนักงานกล้าคิด กล้าแสดงออก และนำเสนอไอเดียใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร

หากสภาพแวดล้อมในการทำงานไม่ดี มีผลกระทบอะไรบ้าง

สภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เหมาะสมส่งผลกระทบ ดังนี้

  • ปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิต เช่น ปวดหลัง ปวดตา ความเครียด และโรคซึมเศร้า
  • เมื่อสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย พนักงานจะขาดแรงจูงใจ ไม่มีสมาธิในการทำงาน ส่งผลให้ผลงานด้อยคุณภาพ เกิดความผิดพลาดบ่อยครั้ง และไม่สามารถทำงานได้เต็มศักยภาพ
  • สภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดอาจนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างพนักงาน ทำให้บรรยากาศการทำงานแย่ลง และส่งผลต่อผลงานโดยรวมขององค์กร

สรุปเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี

Okamura CTA 2

วิธีที่จะทำให้พนักงาน และบุคลากรภายในองค์กร มีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มมากขึ้น ไม่ได้มีเพียงแค่การส่งพนักงานไปอบรม หรือไปเรียนเพื่อ Upskill เท่านั้น แต่การปรับสภาพแวดล้อมการทำงานก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ให้กับพนักงานได้เช่นเดียวกัน ถ้าหากคุณอยากให้บริษัทเติบโตมากยิ่งขึ้น เรื่องที่ดูแเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ คือสิ่งที่มีส่วนช่วยอย่างมาก รับรองได้เลยว่าหากได้มีการนำเอาไปปรับใช้กับบริษัทของคุณ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเกินความคาดหมายแน่นอน

Latest posts

SEE ALL