May 9, 2023
ใช้เวลาอ่าน 5 นาที
จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในช่วงสองถึง สามปีที่ผ่านมานี้ ได้ส่งผลกระทบ ต่อการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก จนส่งผลให้เกิด ไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ขึ้นมา หรือที่เราคุ้นหูกันดีในชื่อ “New Normal”
ซึ่งหนึ่งในผลกระทบที่เห็นได้ชัดเลยก็คือผู้คนส่วนใหญ่เริ่มมีการทำงานที่บ้าน (Work From Home) หรือ WFH กันมากขึ้น ทำให้มีการเลือกใช้ ขนาดโต๊ะทำงาน มาตรฐาน เพื่อรักษาสุขภาพไม่ให้เกิดโรคออฟฟิศซิน โดรมนั่นเอง
การทำงานที่บ้านนั้น แม้ว่าจะมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ประหยัดค่าใช้จ่าย และ เวลา ในการเดินทาง ทำให้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น หรือช่วยลด ความตึงเครียด จากการทำงาน แต่ถ้าจัดสภาพแวดล้อม การทำงานไม่ดี ใช้โต๊ะทำงานที่มี ขนาดความสูง ไม่เหมาะสม หรือใช้เก้าอี้ ทำงานที่ไม่รอง รับสรีระร่างกาย ก็อาจส่ง ผลให้สุขภาพ ร่างกายแย่ลง และทำให้เกิด โรคยอดฮิตอย่างออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ตามมาได้
เพื่อให้คุณสามารถทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จัด สภาพแวดล้อม การทำงานได้อย่างเหมาะสม Siam Okamura จะพา คุณไปดูวิธีเลือก ขนาดโต๊ะทำงาน มาตรฐาน และความสูง ของโต๊ะ ที่เหมาะสมกับตนเอง รับรองว่า จะช่วยให้ห่างไกล จากออฟฟิศซินโดรม ได้อย่างแน่นอน
เพื่อให้คุณมองเห็นความสำคัญในการเลือกความสูงของโต๊ะทำงานออฟฟิศที่เหมาะสมกับ ตนเอง เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Office Syndrome ก่อนว่าคืออะไร และส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
อาการ Office Syndrome คือ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial Pain Syndrome) ที่มีสาเหตุมาจากการใช้งานกล้ามเนื้อ มัดเดิมซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็น ระยะเวลานาน ร่วมกับอาการชาบริเวณแขน มือ หรือปลายนิ้ว จากการที่เส้นประสาท ส่วนปลายถูกกดทับ
ด้วยเหตุนี้ Office Syndrome จึงมักพบในกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่มัก นั่งทำงาน กับ คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน โดยที่ไม่ได้ปรับ เปลี่ยนท่าทาง หรืออิริยาบถ ทำให้กล้ามเนื้อตึงและเกิดการอักเสบจน กลายเป็นออฟฟิศ ซินโดรมตามมานั่นเอง
ปวดกล้ามเนื้อบริเวณใดบริเวณหนึ่ง เช่น คอ บ่า ไหล หรือสะบัก
ปวดศีรษะเรื้อรัง หรือปวดไมเกรน จากความเครียด หรือใช้สายตา เป็นระยะ เวลานาน
ปวดหลังเรื้อรังจากการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันหลายชั่วโมง หรือนั่งทำงานไม่ถูกท่า นั่งหลังค่อม หรือนั่งยกไหล่ ที่มีสาเหตุ มาจากการไม่ เลือกใช้ขนาดโต๊ะทํางานมาตรฐาน
ปวดตึงที่ขา หรือเหน็บชา จากการนั่งทำงานด้วยท่าเดิมติดต่อกัน เป็นระยะ เวลานาน จนทำให้เส้นเลือดดำที่ขาถูกกดทับ และส่งผลให้เลือดไหลเวียน ผิดปกติ
ปวดตา ตาพร่า จากการใช้สายตาจ้องจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกัน เป็นระยะ เวลานาน
ปลายนิ้วชา นิ้วล็อค มือชา หรือปวดข้อมือ จากการจับเมาส์ในท่าเดิม ๆ ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาทและ เส้นเอ็นจนเกิดการอักเสบ
จะเห็นได้ว่า Office Syndrome สามารถทำให้เกิดอาการปวดต่าง ๆได้ทั่ว ทั้งร่างกาย ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและ การทำงาน ให้เหมาะสม ก็อาจทำให้อาการปวดเหล่านี้รุนแรงขึ้นจนส่งผล กระทบต่อสุขภาพ กายและใจ และ การใช้ชีวิตประจำวันได้เพื่อลดความ เสี่ยงในการเกิด Office Syndrome หรือ ช่วยให้ คนที่เป็น Office Syndrome มีอาการดีขึ้น เรามีวิธีปรับพฤติกรรม ช่วยลดอาการ Office Syndrome มาแนะนำ ดังนี้
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 – 4 วัน โดยเน้นไป ที่การเวทเทรนนิ่งเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้าม เนื้อ ร่วมกับหมั่นยืดและ คลายกล้ามเนื้อเป็นประจำ เพื่อให้กล้าม เนื้อมีความยืดหยุ่น จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยจาก Office Syndrome ได้
การพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 7 – 8 ชั่วโมง จะช่วยให้ ร่างกาย ฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้า ทำให้สมองปลอดโปร่งทำงาน ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และจัดการความเครียดได้ดีขึ้น ซึ่งความ เครียดเป็นอีกหนึ่ง สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิด Office Syndrome
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด Office Syndrome ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ การจัดสภาพแวดล้อม การทำงานให้ เหมาะสม ซึ่งปัจจัยแรกที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การ เลือกขนาดโต๊ะ ทำงานมาตรฐาน ที่มีความสูงของโต๊ะที่เหมาะสม กับการนั่งทำงาน นาน ๆ สามารถใช้งาน คอมพิวเตอร์ได้โดยที่ไม่ ต้องยกไหล่ ก้มคอ หรือนั่งเก้าอี้สูงขาลอยพื้น
สำหรับใครที่ทำงานที่บ้าน แล้วรู้สึกว่าโต๊ะที่ใช้ทำงานไม่เหมาะสมกับการ นั่งทำงานนาน ๆ เรามี 3 วิธีเลือกขนาดโต๊ะทำงานมาตรฐานให้เหมาะสม กับตนเองมาฝาก รับรองว่าซื้อมาใช้แล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
สำหรับความสูงของโต๊ะที่เหมาะสมนั้น ควรมีความสูงมาตรฐาน อยู่ที่ 70 – 80 เซนติเมตร ซึ่งเป็นขนาดความสูงที่สามารถนั่ง ทำงาน แล้ววางเท้า บนพื้นได้สบาย ๆ โดยที่ขาไม่ลอย หรือต้อง นั่งชันเข่า ไม่ควรเลือก โต๊ะทำงานที่สูงจนต้องนั่งเก้าอี้สูง ๆ ตาม ไปด้วย หรือโต๊ะทำงานแบบพับ ที่ทำให้ต้องนั่งทำงานบนพื้น เพราะจะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ง่ายแต่ถ้าจะให้ดีที่สุด แนะนำให้เลือกใช้โต๊ะทำงานที่สามารถปรับระดับ ความสูงได้ สามารถสลับนั่งทำงาน และยืนทำงานในระหว่างวัน ซึ่งจะช่วย ให้คุณเปลี่ยนท่าทำงานได้บ่อยขึ้น และลดการเกิดอาการปวด เมื่อยได้มาก
โต๊ะทำงานที่ดีจะต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงมั่นคง สามารถรองรับ น้ำ หนักได้มาก และใช้แผ่นท็อปโต๊ะที่มีผิวเรียบ ไม่สะท้อนแสง ไม่เป็นผิว มัน หรือผิวกระจก เพราะจะทำให้ไม่สามารถใช้กับ เมาส์ได้ โดยแผ่นท็อป โต๊ะที่นิยมใช้กันจะทำมาจากแผ่น Particle Board ปิดผิวด้วยเมลามีน หรือลามิเนต
การเลือกพื้นที่ใช้สอยของโต๊ะทำงานที่พอดี เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่ขาดไม่ได้เลยในการเลือกขนาดโต๊ะทำงานมาตรฐาน เพราะจะช่วย ให้ สามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบาย โดยโต๊ะที่ดีควรมีขนาด ประมาณ 60 – 80 เซนติเมตรขึ้นไป สามารถวางจอคอมพิวเตอร์ ให้ห่างจาก สายตาระยะหนึ่ง เพื่อถนอมสายตา มีพื้นที่ให้ใช้เมาส์ ได้อย่าง คล่องแคล่ว และวางเอกสารสำคัญต่าง ๆ ได้ครบครัน ในที่เดียว
เป็นอย่างไรกันบ้างกับความรู้ดี ๆ ที่เรานำมาฝากในวันนี้ จะเห็นได้ว่า Office Syndrome สามารถทำให้เกิดอาการปวดต่าง ๆ ได้มากกว่า แค่ปวดเมื่อยกล้าม เนื้อปกติ จึงควรให้ความสำคัญและปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการใช้ชีวิตและ ทำงานให้เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกัน ไม่ให้เกิดอาการนี้ขึ้นมา ซึ่งหนึ่งใน ตัวช่วยสำคัญที่จะลดการเกิด Office Syndrome ได้อย่างมี ประสิทธิภาพก็คือ การจัดสภาพแวดล้อมการ ทำงานให้เหมาะสม โดยเลือกใช้ ขนาดโต๊ะทำงาน มาตรฐาน ที่มีความสูง ของโต๊ะที่เหมาะสมในการนั่งทำงานติดต่อกันเป็น ระยะเวลานาน
สำหรับใครที่กำลังมองหาโต๊ะทำงานออฟฟิศคุณภาพ สามารถเลือกโต๊ะ ทำงานจาก Siam Okamura ได้ เราคัดสรรโต๊ะทำงานที่ออกแบบมา ให้สามารถนั่งทำงาน ด้วยท่าทางที่เหมาะสม ปรับระดับความสูงได้ มีโครงสร้างแข็งแรงได้มาตร ฐานสากล รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
Chairs that can be adjusted to fit your body and It works beautifully in the office.