Hybrid Working คืออะไร อัปเดตเทรนด์การทำงานของคนรุ่นใหม่กันหน่อย การทำงานรูปแบบนี้มีรูปแบบการทำงานรูปแบบไหน การเดินทางไปทำงานยังเหมือนการเข้าออฟฟิศปกติหรือไม่ วันนี้เราเอาข้อมูลเหล่านี้มาไขข้อข้องใจให้แล้ว!
Hybrid Working คือ การทำงานที่ออฟฟิศปกตินี่แหละ เพียงแต่ว่าไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน โดยวันที่เข้าไปทำงานที่ออฟฟิศเป็นวันเวลาตามที่บริษัทตกลงกับพนักงาน แต่ละองค์กรก็จะออกแบบโครงสร้างการเข้าออกออฟฟิศต่างกัน ส่วนวันที่ไม่ได้เข้าออฟฟิศพนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ และระบบเช็กเวลาก็จะเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด การทำงานรูปแบบนี้เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ช่วงโควิดและยังมีองค์กรที่ใช้อยู่มาถึงปัจจุบันนี้
สำหรับการทำงานแบบ Hybrid Working นั้นเป็นการทำงานที่มีเวลาอิสระให้พนักงานได้ไปทำงานในที่ที่อยากไป หรือทำงานอยู่ที่บ้าน ซึ่งเป็นการเปิดกรอบเดิมๆ ที่ต้องทำงานเพียงแค่ในออฟฟิศเท่านั้น ทำให้คนรุ่นใหม่ถูกใจการทำงานรูปแบบนี้เป็นจำนวนมาก บริษัทที่ Hybrid Working ยังดูเป็นองค์กรสมัยใหม่ที่ใจกว้างเปิดโอกาสในการทำงานอย่างอิสระมากขึ้นด้วย
การทำงานแบบ Hybrid Working นั้นมีข้อดีที่พนักงานรุ่นใหม่ถูกใจ คือ
การทำงานไม่ต้องอึดอัดเพียงแค่ในออฟฟิศ เพราะมีวันที่สามารถไปคิดงานที่อื่นได้ หรือทำงานที่บ้าน ประหยัดเวลาการเดินทางในการไปออฟฟิศ ทำให้มีเวลาในการทำงานมากขึ้น Hybrid Working เป็นการเพิ่มอิสระในการทำงาน และเมื่อมีอิสระ สมองผ่อนคลาย ไอเดียมากมายก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เลยทีเดียว
การทำงานแบบ Hybrid Working เป็นการสลับวันเข้าออฟฟิศ ทำให้ไม่ต้องเดินทางมาทำงานทุกวัน บางคนเสียค่าเดินทางในการไปออฟฟิศเยอะ พอมีการทำงานรูปแบบ Hybrid Working ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้เป็นอย่างดี
Working เป็นรูปแบบการทำงานอิสระ ที่เพิ่มช่วงเวลาให้พนักงานได้ใช้ชีวิต แค่เพียงมีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ช่วงวันที่ไม่ได้เข้าออฟฟิศก็สามารถอิสระในการใช้ชีวิตได้ และยังมีประหยัดเวลาในการเดินทาง เอาช่วงเวลาตรงนั้นมาทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ด้วย
ไม่เพียงแต่พนักงานเท่านั้นที่ได้ข้อดีจากการทำงานแบบ Hybrid Working ในส่วนองค์กรเองก็มีข้อดีเช่นเดียวกัน คือ
Hybrid Working เป็นรูปแบบการทำงานที่ค่อนข้างอิสระและดูเป็นองค์กรที่ทันสมัย พร้อมเปลี่ยนแปลงเพื่อคนรุ่นใหม่ ทำให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงในปัจจุบัน มองหาองค์กรที่มีการทำงานในรูปแบบนี้ แต่องค์กรก็ต้องมีระบบที่รองรับการทำงานในรูปแบบนี้ด้วย
Hybrid Working ไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของพนักงานเท่านั้น ยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายขององค์กรด้วย เมื่อวันไหนที่ไม่มีพนักงานเข้าออฟฟิศ การใช้ไฟฟ้าในบริษัทก็จะไม่มีการใช้งาน ค่าไฟฟ้าที่ต้องชำระก็จะน้อยลงไปด้วย
ปัญหาพนักงานลาออกเพราะอึดอัดกับการทำงานอยู่กับที่ เบื่อหน่ายกับสภาพแวดล้อมเดิมๆ อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้พนักงานลาออกก็ได้ Hybrid Working นอกจากจะแสดงถึงความใจกว้างขององค์กรแล้ว ยังช่วยคลายความตึงเครียดในการทำงานที่ออฟฟิศให้น้อยลง ทำให้ความสุขของพนักงานในการทำงานมากขึ้นด้วย
Hybrid Working การทำงานแบบฉบับคนรุ่นใหม่ที่เพิ่มอิสระในการทำงาน การใช้ชีวิตในช่วงเวลางานให้ไม่ต้องจำเจหรือติดอยู่ที่ออฟฟิศ เป็นการเปิดใจให้กว้างขององค์กรยุคใหม่ที่ทำให้พนักงานมีความสุขในการทำงานมากขึ้น และยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ของพนักงานและองค์กรได้เป็นอย่างดี บริษัทใครมีการทำงานแบบ Hybrid Working บ้าง อย่าลืมมองหา เก้าอี้สำนักงานหรือโต๊ะทำงานดีๆ ไว้ที่บ้าน เผื่อวันไหนไม่เข้าออฟฟิศ ก็สามารถนั่งทำงานได้สบายๆ ที่บ้าน ไม่ต้องเดินทางไม่ต้องเหนื่อย ไอเดียกระฉูดแน่นอน