เปลี่ยนงานบ่อยผิดไหม? รู้จัก Job Hopper พร้อมข้อดี-ข้อเสีย

March 25, 2025

ใช้เวลาอ่าน 3 นาที

เปลี่ยนงานบ่อยผิดไหม? รู้จัก Job Hopper พร้อมข้อดี-ข้อเสีย

โพสใน

ปัจจุบันการทำงานไม่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องอยู่กับองค์กรเดียวจนเกษียณ คนรุ่นใหม่มักมองหาโอกาสและประสบการณ์มากกว่าความมั่นคง ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “Job Hopper” หรือคนที่เปลี่ยนงานบ่อย ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ในตลาดแรงงานทั่วโลก 

แต่การเป็น Job Hopper นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย บางคนมองว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาตัวเอง ในขณะที่อีกมุมมองกลับมองว่าเป็นสัญญาณของความไม่มั่นคง มาทำความเข้าใจเรื่อง Job Hopper กันให้ชัดเจนว่าจริง ๆ แล้วมันคืออะไร และมีผลอย่างไรต่ออาชีพของคุณ

Job Hopper คืออะไร

Job Hopper คืออะไร

Job Hopper คือคนที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนงานบ่อย โดยทำงานในแต่ละองค์กรสั้นกว่า 2 ปี และเปลี่ยนงานต่อเนื่องหลายครั้ง หรือเรียกว่า การ Hopping (กระโดด) เพื่อการเติบโต พฤติกรรมแบบ Job Hopper มักพบในคนรุ่นมิลเลนเนียลและเจนซีที่ให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าในอาชีพ เงินเดือน และสมดุลชีวิตการทำงานมากกว่าความภักดีต่อองค์กรเพียงอย่างเดียว

สาเหตุการเปลี่ยนงานบ่อยของ Job Hopper

สาเหตุที่ทำให้คนเลือกเป็น Job Hopper มีหลากหลาย บางคนอาจถูกบังคับจากสถานการณ์ ขณะที่บางคนตั้งใจเลือกเส้นทางนี้เพื่อเป้าหมายในอาชีพ มาดูกันว่าอะไรทำให้คนเปลี่ยนงานบ่อย

  • ความจำเป็นจากปัจจัยภายนอก บางครั้งการเปลี่ยนงานไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ แต่เป็นเพราะสถานการณ์บังคับ เช่น บริษัทปิดตัว การถูกลดขนาดองค์กร หรือสัญญาจ้างระยะสั้นสิ้นสุดลง Job Hopper กลุ่มนี้อาจต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์ เพราะไม่มีทางเลือกอื่น
  • ความต้องการความท้าทายใหม่ หลังจากเรียนรู้งานจนชำนาญแล้วก็ต้องการความท้าทายใหม่ ๆ โดยไม่ต้องรอการเลื่อนตำแหน่งในองค์กรเดิม
  • การค้นหาตัวเองและเส้นทางอาชีพที่เหมาะสม พนักงานใหม่หรือคนที่ยังไม่แน่ใจในเส้นทางอาชีพ มักทดลองเปลี่ยนงานเพื่อหาสิ่งที่ใช่ ทั้งในแง่ของประเภทงาน วัฒนธรรมองค์กร หรือสไตล์การทำงานที่เหมาะกับตัวเอง
  • ปัญหาในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เหมาะกับตัวเอง

คุณสมบัติเด่น ๆ ของ Job Hopper

คุณสมบัติเด่น ๆ ของ Job Hopper

คนที่เปลี่ยนงานบ่อยมักมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ช่วยให้พวกเขาปรับตัวและประสบความสำเร็จในการทำงานแต่ละที่ได้ แม้จะอยู่ในระยะเวลาไม่นาน

1. สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว

Job Hopper ต้องปรับตัวเข้ากับงานใหม่บ่อยครั้ง จึงพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ที่รวดเร็ว พวกเขาสามารถเข้าใจกระบวนการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร และทักษะใหม่ ๆ ได้ในเวลาอันสั้น คุณสมบัตินี้ทำให้ Job Hopper ปรับตัวเข้ากับองค์กรใหม่ได้อย่างราบรื่นและเริ่มสร้างผลงานได้เร็วกว่าคนทั่วไป

2. มีความสามารถในการปรับตัว

การต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมและทีมงานใหม่บ่อยครั้ง ทำให้ Job Hopper มีความยืดหยุ่นสูง พวกเขาสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ดี ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมองค์กร บุคลิกของเพื่อนร่วมงาน หรือกระบวนการทำงาน

3. มีทักษะการสื่อสารและการจัดการ

การเริ่มต้นในที่ทำงานใหม่หลายครั้งทำให้ Job Hopper ต้องพัฒนาทักษะการสื่อสารที่ดี พวกเขาเรียนรู้วิธีการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานใหม่ การนำเสนอตัวเอง และการจัดการความคาดหวังของทีม ทักษะเหล่านี้ช่วยให้พวกเขาทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพแม้จะอยู่ในช่วงเวลาสั้น ๆ

ข้อดีของการเป็น Job Hopper

  • เพิ่มโอกาสในการขึ้นเงินเดือนเร็วกว่า 10-20% ในขณะที่การขึ้นเงินเดือนในองค์กรเดิมอาจอยู่ที่ 3-5% ต่อปีเท่านั้น
  • ได้เรียนรู้หลากหลายทักษะและอุตสาหกรรม
  • สร้างเครือข่ายที่กว้างขวาง ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในอนาคต
  • ค้นพบความชอบและความถนัดที่แท้จริงได้เร็วกว่า
  • ก้าวหน้าในตำแหน่งได้เร็วกว่าการรอโอกาสในองค์กรเดิม

ข้อเสียของการเป็น Job Hopper

  • ภาพลักษณ์ที่ไม่น่าเชื่อถือในสายตาบางบริษัท
  • ขาดความเชี่ยวชาญเชิงลึก เพราะการทำงานระยะสั้นอาจทำให้ไม่ได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งในสายงานนั้น ๆ
  • พลาดสวัสดิการที่มาจากการทำงานนาน ๆ เช่น โบนัสอายุงาน เงินบำนาญ
  • อาจต้องเริ่มต้นใหม่เสมอ ทั้งพิสูจน์ตัวเองใหม่ สร้างความสัมพันธ์ใหม่
  • การเป็น Job Hopper บ่อย ๆ อาจส่งผลต่อโอกาสการจ้างงานในอนาคต โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น

การเป็น Job Hopper ไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูก แต่เป็นทางเลือกที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย การเปลี่ยนงานบ่อยอาจช่วยเพิ่มรายได้ ประสบการณ์ และความก้าวหน้าในช่วงแรกของอาชีพ แต่อาจส่งผลเสียในระยะยาวหากไม่มีการวางแผนที่ดี สิ่งสำคัญคือการตัดสินใจตามเป้าหมายอาชีพและสไตล์การทำงานของตัวเอง บางคนอาจประสบความสำเร็จจากการเป็น Job Hopper ในขณะที่บางคนอาจเหมาะกับการทำงานระยะยาวในองค์กรเดียวมากกว่า

ไม่ว่าคุณจะเป็น Job Hopper หรือเลือกยึดมั่นกับองค์กรเดียว สภาพแวดล้อมในการทำงานที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ Siam Okamura ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สำนักงานอันดับ 1 จากญี่ปุ่น มีสินค้าคุณภาพสูงที่ช่วยสนับสนุนสุขภาพและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้สำนักงาน เก้าอี้ Ergonomic เก้าอี้เพื่อสุขภาพที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หรือโต๊ะปรับระดับที่ช่วยให้คุณทำงานได้อย่างสะดวกสบาย สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณไม่อยากเปลี่ยนงานบ่อยอีกต่อไป

Latest posts

SEE ALL