May 16, 2023
ใช้เวลาอ่าน 3 นาที
ใน 1 วันคนเราใช้เวลาไปกับการทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน นับเป็น 1 ใน 3 จากเวลา 24 ชั่วโมงที่ทุกคนมีเท่ากัน โดยส่วนมากจะต้องทำงานผ่านคอมพิวเตอร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะนับเป็นเครื่องหลักสำหรับงานออฟฟิศทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น งานบัญชี งานเอกสาร งานออกแบบ เป็นต้น ซึ่งในการนั่งทำงานผ่านคอมพิวเตอร์นานๆ ก็สามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งภายนอกภายใน และอาการที่พบจากกลุ่มพนักงานออฟฟิศมากที่สุดคือ “ปวดต้นคอ-ปวดหัว-ปวดกระบอกตา” ในบทความนี้ Siam Okumura ก็จะมาแนะนำวิธีช่วยลดอาการปวดที่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวคุณเอง
ก่อนที่จะไปถึงวิธีลดอาการต่างๆ ที่เกิดจากการทำงานนั้น อยากให้ทุกคนเข้าใจถึงสาเหตุต่างๆ ที่แท้จริงก่อน เพื่อช่วยแก้ไขได้อย่างถูกจุด
เริ่มต้นด้วยอาการปวดต้นคอ ทุกคนที่นั่งทำงานผ่านคอมพิวเตอร์นานๆ ต้องพบกับอาการนี้อย่างแน่นอน โดยสาเหตุหลักๆ คือการนั่งท่าเดิมบนเก้าอี้นั่งทำงาน และโต๊ะทำงานโดยไม่มีการเปลี่ยนท่าและจ้องคอมอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดความเมื่อยล้าสะสมบริเวณต้นคอเป็นประจำ
ถัดมาเป็นผลกระทบจากการใช้สายตากับคอมเป็นเวลานาน บวกกับการที่สมองต้องใช้งานมากทั้งประมวลผลทางความคิด และสั่งการไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ส่งผลทำให้ร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ จนเกิดอาการข้างเคียงอย่าง เช่น อาการปวดหัว วิงเวียนศีรษะ อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย และหนักที่สุดถึงขึ้นทำให้เกิดอาการบ้านหมุนจนทรงตัวยากเลยทีเดียว
อาการสุดท้ายเกี่ยวกับตาโดยตรง เนื่องจากการใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานซึ่งส่วนที่รับข้อมูลโดยตรงเป็นส่วนแรกคือ “ตา” ประกอบกับการทำงานของจอคอมที่มีการเปล่งแสงออกมาตลอดเวลา จนสายตาทำงานอย่างหนักติดต่อกันจึงมีผลทำให้ปวดล้าทางสายตา มากไปกว่านั้นยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดอาการต่างๆ ทั้งอาการปวดหัว อาการวิงเวียน และมากที่สุดคือทำให้เลือดไหลเวียนไม่ปกติ
ด้วยหน้าที่การทำงานของทุกคนทำให้เลี่ยงการใช้งานคอมพิวเตอร์ไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นการรับมือจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้ได้รับผลกระทบจากอาการปวดต้นคอ-ปวดหัว-ปวดกระบอกตา น้อยที่สุด ทุกคนสามารถทำได้ด้วยวิธีเหล่านี้
เพราะจอคอมพิวเตอร์รวมไปถึงสมาร์ตโฟนนั้นมีการส่องแสงสีฟ้าออกมาตลอดเวลา ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้สายตาเมื่อยล้า การใช้แว่นตาประเภทนี้ช่วยให้สบายตาและลดอาการล้าได้ดี
คุณไม่จำเป็นต้องเร่งแสงจากจอให้สว่างจนเกินไป เพราะยิ่งจอสว่างมากเท่าไหร่สายตาก็จะทำงานหนักขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีควรปรับลดความสว่างให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมมากที่สุด และนั่งทำงานในโซนที่มีแสงสว่างเพียงพอจะดีกว่า
ด้วยความกะทัดรัดของโน้ตบุ๊ค ทำให้ผู้ใช้งานต้องเพ่งสายตามากกว่าปกติ ดังนั้นการใช้จอมอนิเตอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่า สามารถช่วยให้คุณทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น ไม่ต้องคอยเพ่งมองในจอเล็กๆ ให้เสียสายตา และเพิ่มเทคนิคอีกเล็กน้อยควรปรับขนาดตัวอักษรให้มีขนาดที่พอดี และเว้นระยะห่างระหว่างจอและตัวคุณประมาณ 50 เซนติเมตรจะดีที่สุด
หากคุณนั่งทำงานมานานหลายชั่วโมงแล้ว ขอแนะนำให้พักสายตาด้วยการหลับตาครั้งละ 2-3 นาที จะช่วยลดอาการล้าของสายตาได้เป็นอย่างดี หรืออีกวิธีคือให้ลองละสายตาจากจอแล้วหันไปมองวิวนอกหน้าต่างอย่าง ท้องฟ้า ต้นไม้สีเขียวจากสวน สามารถช่วยได้เป็นอย่างมาก
ยิ่งคุณเพ่งตามองนานมากเท่าไหร่ ความชุ่มชื้นของตาก็จะลดลงไปเรื่อยๆ ทางที่ดีที่สุดคือควรกระพริบตาบ่อยๆ อย่าปล่อยให้ตาของคุณมองค้างนานๆ หรือถ้าใช้ตัวช่วยเสริมอย่างน้ำตาเทียมก็ช่วยให้ชุ่มชื้น และไม่เกิดอาการเคืองตาได้เช่นกัน
เมื่อคุณต้องนั่งนานๆ ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องขยับร่างกายเพื่อการผ่อนคลายบ้าง ไม่จำเป็นต้องลูกขึ้นมาวิ่งอะไรขนาดนั้น แต่คุณสามารถทำได้ด้วยการยืดเส้นยืดสาย โดยวิธีง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องทำตามท่านวดแขนและวิธีนวดขาที่ถูกต้อง เช่น
ถึงแม้ว่าการทำงานจะเป็นกิจกรรมที่สำคัญของทุกคน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าร่างกายที่พวกเราใช้งานเพื่อสร้างสรรค์ผลงานให้กับองค์กรนั้นก็ต้องได้รับการดูแลที่ดีเช่นกัน ดังนั้นเพื่อให้คุณมีสุขภาพร่างกายที่ดี พร้อมในการทำงานทุกๆ วัน จึงต้องแบ่งเวลาเพื่อพักผ่อนระหว่างวันบ้าง เพราะถ้ามองย้อนกลับไปดูสาเหตุต่างๆ แล้วจะพบว่าเกิดจากการนั่งท่าเดิมไม่เปลี่ยนอิริยาบถทั้งนั้น ในส่วนขององค์กรเองก็สามารถช่วยเสริมสุขภาพของพนักงานได้เช่นกัน จากการเลือกเฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่ช่วยซัพพอร์ตร่างกายได้ดี ออกแบบมาเพื่อนั่งทำงานได้อย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะทำงาน เก้าอี้นั่งทำงาน หรือจะเลือกเก้าอี้ Ergonomic ก็นับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องนั่งทำงานตลอดทั้งวัน