May 17, 2023
ใช้เวลาอ่าน 5 นาที
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เทรนด์การทำงานของคนในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก หลายออฟฟิศเริ่มทำงานแบบไฮบริด (Hybrid) มากขึ้น มีการผสมผสานระหว่างการทำงานที่ออฟฟิศกับการทำงานนอกสถานที่ เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับพนักงาน จึงทำให้จำนวนพนักงานที่เข้าออฟฟิศในแต่ละวันน้อยลงไปมาก
จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ออฟฟิศในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ หรือมีโต๊ะทำงานประจำพนักงานทุกคนเสมอไป แต่จะเน้นไปที่การตกแต่งออฟฟิศให้มีความสวยงาม น่ามาทำงาน เฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศสามารถใช้งานได้จริง และเอื้ออำนวยให้พนักงานสามารถทำงานของตนเองและประชุมงานออนไลน์ได้สะดวกกว่าเดิมมากกว่า
สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่ยังไม่รู้ว่าจะแต่งออฟฟิศของตนเองอย่างไรดี Siam Okamura มี 15 ไอเดียแต่งออฟฟิศที่น่าสนใจมาแนะนำ สามารถนำไปปรับใช้แต่งออฟฟิศของตนเองได้เลย
การทำงานเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความเครียด ความกดดัน และความวิตกกังวล ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย จนนำไปสู่การเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) หรืออาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตใจ จนนำไปสู่การเป็นภาวะซึมเศร้า หรือภาวะเครียดเรื้อรังได้
การเลือกออฟฟิศดีไซน์ หรือเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ให้มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี เอื้ออำนวยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างสบายใจ จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ เพราะสถานที่ทำงานเป็นหนึ่งในสถานที่ที่พนักงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยนานที่สุด อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน การที่พนักงานทำงานในสถานที่ที่ดีก็จะช่วยให้มีสุขภาพกายสุขภาพใจที่ดีตามไปด้วยนั่นเอง
สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี น่าทำงาน จะช่วยให้สมองสามารถทำงานได้อย่างไหลลื่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มาก ซึ่งคุณสามารถสร้างบรรยากาศทำงานดี ๆ ได้ง่าย ๆ เพียงแค่นำ 15 ไอเดียแต่งออฟฟิศที่เรานำมาแนะนำไปปรับใช้ ไปดูกันเลย
การตกแต่งออฟฟิศให้มีสีสันสดใสในทุก ๆ จุด ไม่ว่าจะเป็น ผนัง ของตกแต่ง หรือโต๊ะทำงาน ในบางครั้งก็อาจทำให้มีจุดสนใจในออฟฟิศมากเกินไป จนทำให้พนักงานหลุดโฟกัสการทำงานได้ หากคุณเพิ่งเริ่มมีออฟฟิศเป็นของตนเอง เราขอแนะนำให้เริ่มต้นตกแต่งออฟฟิศด้วยสไตล์ที่เรียบง่ายไปก่อนจะดีกว่า เพื่อลดโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดจนต้องมาแก้ในภายหลัง
สิ่งที่ไม่ควรละเลยก็คือ การเลือกโต๊ะทำงานและเก้าอี้ทำงานที่มีดีไซน์โมเดิร์นทันสมัย แต่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ สามารถนั่งทำงานได้สบาย ๆ โดยไม่ทำให้เกิดอาการปวดหลัง เพื่อที่พนักงานจะได้สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ
แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบความมินิมอล ต้องการให้บรรยากาศในออฟฟิศดูโปร่งโล่ง สบายตา ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย การเลือกเฟอร์นิเจอร์ในออฟฟิศที่มีจำนวนมาก ๆ อย่างเช่น โต๊ะทำงาน หรือเก้าอี้ทำงาน ให้มีสีขาวล้วน ก็นับเป็นหนึ่งในไอเดียแต่งออฟฟิศง่าย ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความมินิมอลได้
ในบางครั้ง ออฟฟิศที่มีสีขาวล้วนไปหมดก็อาจจะทำให้บรรยากาศในที่ทำงานดูน่าเบื่อ ไม่มีชีวิตชีวา และน่าทำงานน้อยลง การเติมคู่สีเล็ก ๆ น้อย ๆ ลงไปในเฟอร์นิเจอร์บางส่วน จะสามารถช่วยให้บรรยากาศในออฟฟิศดูสดใส และมีสไตล์มากขึ้นได้ เช่น สีเทากับสีชมพู, สีส้มกับสีน้ำเงิน, สีฟ้าอ่อนกับสีขาว หรือสีม่วงกับสีเทา เป็นต้น
การเลือกใช้โต๊ะและเก้าอี้ทำงานที่มีสีน้ำตาลเข้ม หรือมีลายไม้ ผสมผสานกับการตกแต่งออฟฟิศด้วยต้นไม้จริง ก็นับเป็นอีกหนึ่งไอเดียแต่งออฟฟิศที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น สงบ และเพิ่มความโปรดักทีฟให้กับพนักงานได้จริง เพราะจะช่วยให้พนักงานรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น และลดความรู้สึกตึงเครียดจากการอยู่ในสภาพแวดล้อมแคบ ๆ หรือสถานที่ที่มีแต่ตึกสูง ๆ ได้
นอกจากการตกแต่งออฟฟิศให้น่าอยู่น่ามาทำงานแล้ว การคงสภาพบรรยากาศออฟฟิศที่ตกแต่งไว้ให้ได้นานที่สุดก็นับเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรละเลย ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำลายบรรยากาศออฟฟิศที่คุณตกแต่งไว้ ก็คือข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ในออฟฟิศ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว คุณควรที่จะทำตู้เก็บของ หรือชั้นเก็บของไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ในอนาคตเมื่อมีพนักงานเข้ามาทำงานในออฟฟิศ หรือมีเอกสาร มีข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ก็จะยังมีที่เก็บของอย่างเป็นระเบียบ และไม่ทำให้ออฟฟิศรกนั่นเอง
สำหรับออฟฟิศที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่มาก การมีกำแพงทึบ ๆ ล้อมรอบห้อง ก็อาจจะทำให้ออฟฟิศดูอึดอัดไม่น่าทำงาน แม้ว่าจะตกแต่งออฟฟิศให้สวยงามแค่ไหน ก็ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการอยู่ดี หากออฟฟิศของคุณมีที่แคบ เราแนะนำลองหากระจกเงามาตกแต่ง นำกระจกไปทำเป็นหน้าต่างบานใหญ่ ๆ เพื่อให้แสงเข้ามา หรือใช้แทนผนังด้านใดด้านหนึ่ง ก็จะช่วยพรางตาให้ห้องดูกว้างขึ้นได้
ผนัง เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผู้ประกอบการไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก ทั้งที่จริง ๆ แล้ว หากรู้จักปรับใช้ให้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับออฟฟิศได้มาก โดยคุณอาจใช้ผนังที่เป็นกระจกมาแทนด้วยกระดานไวท์บอร์ดเพื่อใช้เป็นสถานที่ระดมความคิด หรือโน้ตข้อความต่าง ๆ ที่พนักงานต้องการสื่อสารก็ได้ นับเป็นอีกหนึ่งไอเดียแต่งออฟฟิศง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ทันที และช่วยสร้างบรรยากาศในออฟฟิศให้ดูผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นด้วย
ออฟฟิศส่วนใหญ่จะมีหน้าต่างน้อย และมักใช้ผ้าม่านหนา ๆ คอยบังแสงแดดอยู่เสมอ แล้วเลือกใช้แสงสว่างจากหลอดไฟเป็นหลัก โดยที่ไม่รู้เลยว่า การใช้แสงประดิษฐ์จากหลอดไฟมากเกินไปเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดตา ปวดหัว และตาพร่ามัวได้ง่าย ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลง
นอกจากนี้การที่พนักงานในออฟฟิศสัมผัสกับแสงแดดตอนเช้า หรือตอนกลางวันน้อยเกินไป ยังส่งผลกระทบต่อวงจรการนอนหลับและการตื่นทางอ้อมด้วย โดยจะทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ในระยะยาว เช่น รู้สึกอ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เพียงพอ หงุดหงิดง่าย ความคิดสร้างสรรค์แย่ลง ภูมิคุ้มกันลดลง และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ หรือโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น ดังนั้น การเพิ่มหน้าต่างให้มีแสงแดดจากธรรมชาติส่องเข้ามาในออฟฟิศมากขึ้น จึงเป็นวิธีตกแต่งออฟฟิศง่าย ๆ ที่ช่วยให้พนักงานมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้นได้นั่นเอง
ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของประเทศอังกฤษ (National Health Service) หรือ NHS ได้กล่าวไว้ว่า การนั่งทำงานนาน ๆ มากเกินไป จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ช้าลง รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการควบคุมระดับน้ำตาล ความดันโลหิต และการสะสมของไขมันในร่างกาย
การออกแบบออฟฟิศดีไซน์ที่ส่งเสริมให้เกิดความเคลื่อนไหวจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้าม เพราะการที่พนักงานมีการขยับร่างกาย หรือเคลื่อนที่บ่อย ๆ จะทำให้มีความกระตือรือร้นมากขึ้น รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีสุขภาพกายและใจที่ดี ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นตามไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น การตกแต่งออฟฟิศแบบเปิดโล่ง จัดมุมทำงานหลาย ๆ มุม และใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในการทำงาน เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถยกโน้ตบุ๊กไปทำงานได้ทุกที่อย่างยืดหยุ่นและอิสระ ก็ช่วยให้มีความคล่องตัวมากขึ้นนั่นเอง
คุณภาพอากาศในอาคารเป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจละเลยอยู่เสมอ ทั้ง ๆ ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของพนักงานอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมีหลายสิ่งมากที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ เช่น ฝุ่นจาก PM.25 มลภาวะจากเครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสาร ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด คราบสกปรกบนโต๊ะทำงาน หรือไรฝุ่นที่สะสมอยู่ในพรม เป็นต้น
เจ้าของธุรกิจสามารถปรับคุณภาพอากาศในออฟฟิศได้ง่าย ๆ โดยการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ และหมั่นทำความสะอาดออฟฟิศอยู่เสมอ โดยเฉพาะการกำจัดแบคทีเรียและไรฝุ่นที่สะสมอยู่ในพรม ก็จะช่วยให้คุณภาพอากาศในออฟฟิศดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการที่ออฟฟิศมีอากาศปลอดโปร่ง หายใจได้โล่งสบาย ก็จะช่วยให้พนักงานรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจจากอากาศ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
การทำงานท่ามกลางธรรมชาติจะช่วยให้พนักงานรู้สึกมีชีวิตชีวา กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ สามารถปรับปรุงสุขภาพจิต และลดความเครียดได้ แต่การทำงานในออฟฟิศมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน จะทำให้พนักงานรู้สึกขาดการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ โดยการตกแต่งออฟฟิศด้วยวัสดุทางธรรมชาติมากขึ้น เช่น เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ หินอ่อน หรือหินแกรนิต ร่วมกับตกแต่งด้วยผลิตภัณฑ์จากชุมชนต่าง ๆ อย่าง รูปปั้น เครื่องสาน และเพิ่มไม้พุ่ม หรือพืชพรรณต่าง ๆ ทั่วบริเวณออฟฟิศ ก็จะช่วยเพิ่มให้พนักงานรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การที่มีต้นไม้ในออฟฟิศจะช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในอากาศ ซึ่งจะช่วยลดความเหนื่อยล้าทางจิตใจให้กับพนักงาน ลดความเครียด และทำให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้นด้วย
มลภาวะทางเสียงสามารถส่งผลกระทบต่อสมาธิการทำงานอย่างมาก ทำให้รู้สึกขาดความเป็นส่วนตัว และทำให้การคิดวิเคราะห์งาน หรือทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นไปได้ยาก อีกทั้งการที่มีเสียงรบกวนจากสิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลา เช่น เสียงโทรศัพท์ เสียงรถจราจร เสียงการทำงานของเครื่องพิมพ์ หรือเสียงจากเครื่องถ่ายเอกสาร ก็จะทำให้พนักงานรู้สึกรำคาญ และเกิดความเครียดสะสมได้ด้วย
การแก้ไขปัญหานี้ สามารถทำได้ด้วยการออกแบบออฟฟิศดีไซน์ให้หลากหลาย แบ่งโซนที่ใช้เสียง และงดใช้เสียงอย่างชัดเจน เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถเลือกสถานที่ทำงานที่เหมาะกับงานที่ทำในขณะนั้น หรือเลือกใช้โต๊ะทำงานที่มีพาร์ทิชันกั้นเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว ก็ช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากเสียงรบกวนในที่ทำงานได้
การที่ผู้ประกอบการสร้างมุมพักผ่อนสักมุมหนึ่งภายในออฟฟิศจะเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่มีส่วนช่วยให้พนักงานมีความโปรดักทีฟกับการทำงานมากยิ่งขึ้น เพราะมุมพักผ่อนเปรียบเสมือนจุดนั่งพักในระหว่างการทำงาน เปลี่ยนบรรยากาศจากโต๊ะของตัวเอง ลุกขึ้นมานั่งที่มุมพักผ่อนจะช่วยทำให้ไอเดียไหลลื่น และพร้อมกลับไปทำงานที่โต๊ะของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การตกแต่งออฟฟิศให้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ผู้ประกอบไม่ควรมองข้าม เพราะการตกแต่งออกแบบดีไซน์ออฟฟิศให้มีความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองจะช่วยให้บรรยากาศการทำงานมีความน่าทำงานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับพนักงานได้อีกด้วย
สำหรับไอเดียสุดท้ายกับการตกแต่งออฟฟิศด้วยงานศิลปะ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังเปรียบเสมือนอีกหนึ่งมุมพิเศษที่พนักงานสามารถลุกขึ้นจากโต๊ะของตัวเองและมาเดินดูงานศิลปะเพื่อช่วยเพิ่มไอเดียให้ไหลลื่นมากขึ้นกว่าเดิม
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 15 ไอเดียแต่งออฟฟิศที่เรานำมาแนะนำในบทความนี้ จะเห็นได้ว่า สามารถนำไปปรับใช้ตกแต่งออฟฟิศได้ง่าย ๆ ไม่ต้องลงทุนมาก แต่ช่วยเพิ่มความโปรดักทีฟให้กับพนักงานได้จริง และสำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์แบบไหน โดยเฉพาะโต๊ะและเก้าอี้ทำงาน สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก Siam Okamura ได้เลย เราพร้อมให้คำแนะนำในการแต่งออฟฟิศและเลือกเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์การใช้งานคุณมากที่สุด รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน